ในช่วงที่ผ่านมาผมได้เล่าประสบการณ์ในการสั่งของจากประเทศจีนมาขายไปแล้วตอนนี้ผมก็ได้ช่องทางใหม่ที่ผมรู้สึกว่ามันน่าสนใจมาก และได้มีโอกาสลองเข้าไปสัมผัสดูแล้ว “”สินค้ามือสองจากญี่ปุ่น” ผมเริ่มรู้จักกับสินค้ามือสองจากเพื่อนคนหนึ่งซึ่งชื่นชอบการเดินตลาดนัดมาก จนวันหนึ่งได้ไปเดินในตลาดนัดแถวบ้าน และไปเห็นแม่ค้ากำลังลงของเป็นกองๆไว้ให้ลูกค้าได้เข้าคุ้ยเลือก และที่สำคัญราคาถูกมาก จากการสอบถามได้ความว่าแม่ค้านั้นซื้อเหมามาจากโกดังโดยนับเป็นกิโลโดยที่มีของแต่ละสภาพคละๆ กันไป ตาดีได้ตาร้ายเสีย
ซึ่งเหมือนเพื่อผมจะโชคดีเพราะไปได้ของแท้สภาพดีในราคาที่ถูกกว่าเกือบ 10 เท่า แล้วเพื่อนก็เอามาอวกผมที่ทำงาน และเล่ารายละเอียดให้ฟัง เพราะรู้ว่าผมรับของจากจีนมาขายในอินเตอร์เน็ต ผมจึงได้ลองหาข้อมูลเกี่ยวกับสอนค้าประเภทนี้ว่ามีที่มาอย่างไร จนผมทราบว่าสินค้ามือสองจากญี่ปุ่นนั้นเป็นของที่คนญี่ปุ่นไม่ใช้แล้ว อนึ่งเพราะที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นพวกข้าวของเครื่องใช้มีราคาถูก และมีหลากหลาย บางคนใส่เพียงไม่กี่ครั้งก็เอาไปขายถูกๆ จึงมีพ่อค้าหัวใสบินไปถึงญี่ปุ่นเพื่อไปรวมรวมสินค้าหลากหลายรูปแบบในราคาที่ถูกมากๆ เพื่อนำเข้ามาขายในประเทศไทยอย่างถูกกฎหมายผ่านตู้คอนเทนเนอร์ และเป็นอีกหนึ่งช่องทางของธุรกิจการขายสินค้าในปัจจุบัน
ผมจึงไม่รอช้าใช้เวลาในวันหยุดสุดสัปดาห์ในการเข้าไปที่โกดังซึ่งก็นับว่าเป็นโชคดีที่เป็นวันที่ทางพ่อค้าเปิดตู้คอนเทนเนอร์เพื่อให้พ่อค้าแม้ค้าทั่วไปได้จับจอง ผมไปถึงประมาณ 10 โมงเช้า ก็มีพ่อค้าแม่ค้ามากมายมารออยู่ที่หน้าโกดังเป็นจำนวนมาก ซึ่งตามที่ประกาศจะเปิดให้คัดของในเวลา 10.30 น. สินค้าที่นำเข้ามานั้นมีอยู่รวมกันมากมายหลายชนิดทั้งกระเป๋า เสื้อผ้า ตุ๊กตา ของเล่น เครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ที่น่าแปลกใจก็คือสภาพของสินค้านั้นถือว่าใหม่มาก และยังคงอยู่ในสภาพดีที่พร้อมไข้งาน ในวันนั้นผมได้รองเท้าหนังยี่ห้องดังมาถึง 2 ลัง โดยการชั่งกิโล ผมจ่ายไป 3,500 บาท จากการประมารผม/ได้รองเท้ามา 50 คู่ ซึ่งผมจะเอาไปขายบน Page ใน Facebook ที่ผมใช้ขายของอยู่เป็นประจำ แล้วผมจะมาเล่าให้ฟังใน Blog ถัดไปนะครับ