ตลาดญี่ปุ่น จัดเป็นตลาดสำคัญอันดับ 1 ของไทยในเอเชีย และเป็นตลาดใหญ่อันดับ 2 ของไทยในระดับโลก โดยรองจากสหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังมีมูลค่าการซื้อขายสินค้าเพิ่มขึ้นทุกปี ประเทศญี่ปุ่น มีการยกเว้น VISA ให้กับนักท่องเที่ยว ตั้งแต่ปี 2013 จึงทำให้คนไทยจำนวนมากมีโอกาสเดินทางเข้าไปเยือนประเทศญี่ปุ่นกันเพิ่มมากขึ้น ในปี 2015 มีผู้เดินทางชาวไทยกว่า 790,000 คนเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น โดนจำนวนนี้มากกว่าปี 2013 ตั้ง 3 เท่า ทำให้นักท่องเที่ยวเหล่านี้มีโอกาสได้เรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่น , ความเป็นญี่ปุ่น , อันมีความอ่อนน้อม , มีมารยาท รวมทั้งมีความคิดสร้างสรรค์ ของสินค้าที่ออกแบบในประเทศญี่ปุ่น ก็ออกแบบมาได้อย่างลงตัว , น่าใช้ , น่าสนใจ จึงทำให้คนไทยที่ได้ไปสัมผัส เกิดความประทับใจ จนกระแสนิยมใช้สินค้าจากญี่ปุ่นมากขึ้นเรื่อยๆ
ค้าขายของนำเข้าจากญี่ปุ่นแบบออนไลน์
ใครคือลูกค้า
การเลือกสินค้าซึ่งนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น จะต้องเป็นสิ่งที่ขายได้รวมทั้งมีตลาดรองรับแน่นอน เช่น สินค้าแฟชั่น โดยเฉพาะรองเท้ากีฬา ซึ่งญี่ปุ่นก็มีความโดดเด่นในเรื่องนี้มาตลอด จากเอกลักษณ์เฉพาะตัวในเรื่องของสไตล์และคุณภาพดี ทำให้หลายๆคนเกิดความสนใจ และยิ่งมีราคาถูกหรือเป็นรุ่นที่หาจากบ้านเราไม่ได้แล้วล่ะก็ ลูกค้าวิ่งเข้าใส่แน่นอน , ของสะสม Anime โมเดลการ์ตูนหรือของสะสมต่างๆ เพราะสำหรับคนที่ชื่นชอบต้องมองหาแต่ของแท้เท่านั้น อีกทั้งต้องสั่งจากญี่ปุ่นอย่าง 100% เพราะญี่ปุ่นเป็นประเทศต้นตำหรับของวงการการ์ตูน , สินค้า Sanrio สินค้าสุดน่ารัก อันเป็นอมตะตลอดกาล ถึงแม้สินค้าจากแบรนด์นี้จะมีการนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยแล้วก็จริง แต่ก็มีของพรีเมี่ยมบางอย่างผลิตมาจำนวนจำกัด เฉพาะที่ประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ทำให้สาวกตัวจริงที่ชอบสะสมอยากจะควานหามาครอบครองให้จงได้ และนี่คือตัวอย่างที่เรายกมาให้คุณดูว่า การเลือกสินค้าที่นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น นั้นมีมากมายหลายอย่าง เพียงแค่คุณต้องลงมือศึกษาหน่อยเท่านั้นเอง
ราคาตลาด
เมื่อคุณเลือกกลุ่มลูกค้าและสินค้าได้แล้ว ต่อมาก็คือการสำรวจราคาตลาด เพราะการรู้ราคาตลาดจะนำไปสู่การสรรหาแหล่งขายสินค้ารวมทั้งวิธีการซึ่งจะนำเข้ามาภายใต้ต้นทุนอันสัมพันธ์กับราคาปลีก ขอให้คุณตระหนักไว้ว่าบางครั้งการขายดี หรือไม่ดี ไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาขายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เนื่องจากบางกลุ่มลูกค้าไม่ใช่กลุ่ม Price sensitive แต่เป็นแนว Brand sensitive หรือ มีความชอบเฉพาะทาง เป็นต้น แต่เมื่อคุณ เลือกกลุ่มลูกค้า เลือกสินค้า รวมทั้งศึกษาโครงสร้างของราคาปลีกอย่างเจาะลึกแล้ว คุณก็จะได้ขายสินค้าในราคาไม่สุดโต่งจนเกินไปจากค่าเฉลี่ยของตลาดนั่นเอง