ความจำเป็นของการขายของผ่านช่องทางออนไลน์ในปัจจุบัน

การขายสินค้าและบริการได้เปลี่ยนแปลงไปมากนับตั้งแต่การมาของอินเทอร์เน็ตและโซเชียลเน็ตเวิร์ค เพราะในแง่ของการตลาด นี่เท่ากับเป็นการเพิ่มช่องทางสำคัญที่จะเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรง ไม่จำเป็นต้องผ่านช่องทางอื่นอีกต่อไป แล้วที่สำคัญอีกข้อคือ ใครๆก็สามารถเป็นเจ้าของร้านทางออนไลน์ของตนเองได้ โดยไม่ต้องลงทุนหน้าร้านจริงที่มีความเสี่ยงสูง นี่จึงเป็นธุรกิจที่เหมาะสำหรับเจ้าของกิจการรายเล็ก หรือขนาดกลาง ทั้งผู้ที่กำลังจะเริ่มต้นธุรกิจ หรือต้องการเพิ่มช่องทางของตนเอง

หากมองย้อนกลับไปถึงกระบวนการจำหน่ายและกระจายสินค้า เราจะพบว่า หน้าร้าน คือสิ่งสำคัญมาก ถ้าอยากจะขายสินค้าหรือบริการ จำเป็นต้องหาทำเลดีที่ผู้คนจะเดินผ่าน หรือมาชุมนุมกันมาก ห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อจึงเกิดขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ในเรื่องนี้ แต่มันก็ทำให้เกิดกระบวนการผูกขาดการกระจายสินค้าไปโดยปริยาย ผู้ที่มีทุนหนา และควบคุม Distribution ของการกระจายสินค้า จึงครอบครองส่วนแบ่งการตลาดที่เจ้าของกิจการเล็กๆหรือผู้ผลิตรายย่อย จำเป็นต้องพึ่งพา ไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถกระจายสินค้าของตนได้

ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนคือ การวางขายสินค้าในร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven หรือ การขอเช่าพื้นที่หน้าร้านเพื่อที่เราจะได้สามารถวางขายสินค้าอยู่บนห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั้งหลาย ซึ่งทุกวันนี้ได้กลายเป็นช่องทางมหาศาลที่ในแต่ละวันสามารถทำรายได้เป็นหลักหลายพันล้านจากการขายสินค้าได้ทีละมากๆในแต่ละวัน

แน่นอนว่า นี่เป็นช่องทางที่ผู้ผลิตและผู้ค้ารายย่อยทั้งหลายต้องพึ่งพิงมานาน ไม่เช่นนั้นก็เป็นการยากที่จะเติบโตหรือขยายกิจการและเพิ่มผลกำไรในอนาคตได้

แต่การมาของระบบออนไลน์ได้พลิกโฉมเรื่องนี้ไปหมดอย่างสิ้นเชิง ทุกวันนี้ผู้ซื้อสามารถเข้าถึงผู้ผลิตรายย่อย หรือเจ้าของกิจการขนาดเล็กได้ด้วยตนเอง ฝ่ายผู้ผลิตก็สามารถจำหน่ายสินค้าได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านช่องทางจัดจำหน่ายไปซะทั้งหมดอีกต่อไป แต่เราสามารถเปิดร้านขายของออนไลน์ย่อมๆเองได้เลย

ขณะเดียวกัน นายทุนหลายรายก็ปรับเปลี่ยนตัวเองให้มาเป็นหน้าร้านที่รับฝากขายทางออนไลน์ซะเอง ด้วยการวางแผนทำ SEO ที่จะช่วยให้ผู้สนใจสินค้าได้พบเห็นเว็บนั้นๆเป็นอันดับต้นๆหลังจากค้าหาในกูเกิลมาแล้วนั่นเอง อีกทั้งยังสามารถลงทุนในการจัดทำระบบขนส่งสินค้าให้รวดเร็ว

ตัวอย่างของร้านออนไลน์ที่โด่งดังมากในระดับโลก ก็คือ “Amazon.com”

ในหลายปีที่ผ่านมานี้ Amazonได้สร้างชื่อเสียงและประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ จากการเป็นร้านขายหนังสือบนโลกออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ต่อมายังขยายตลาด แตกไลน์การขายสินค้าประเภทอื่นๆอีกมากมาย แต่จุดแข็งที่สุดเห็นจะเป็นความสามารถในการบริการจัดส่งสินค้าให้ถึงลูกค้าได้แทบจะถึงทุกสถานที่ไม่ว่าจะอยู่มุมใดของโลกอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม เมื่อลองมองดูร้านค้าออนไลน์รายย่อย เราจะพบเห็นอยู่แทบจะกลาดเกลื่อนบนโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ค สินค้ายอดนิยมนั้น ได้แก่  เสื้อผ้า อาหาร เครื่องสำอาง อาหารเสริมสุขภาพและความงาม เครื่องประดับ หนังสือ อุปกรณ์เทคโนโลยี เครื่องใช้อุปโภค ฯลฯ

หลายปีหลังมานี้ หนึ่งในสินค้ากลุ่มที่ได้รับความนิยม มักขายได้ง่ายและมีคนขายใหม่ๆเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆนั้น เห็นจะไม่พ้นสินค้าประเภทอาหารเสริมความขายใส

ตัวอย่างสินค้าหลักในช่วงที่ผ่านมานี้ได้แก่ อาหารเสริมประเภทกลูตา ซึ่งมีจุดขายอยู่ที่ “กินแล้วผิวขาวอมชมพู” สินค้ากลุ่มนี้ได้รับความนิยมในหมู่ผู้หญิงหลายช่วงอายุ โดยเฉพาะผู้ที่รักความสวยงามซึ่งมีกำลังซื้อค่อนข้างสูง

ในทางกลับกัน เมื่อสินค้าเป็นที่ต้องการมาก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีร้านค้าออนไลน์จำนวนมากปรากฏขึ้นมา ซึ่งอาจจะไม่ได้เป็นคู่แข่งขันกันโดยตรง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือ ความพยายามอย่างยิ่งของบรรดาเจ้าของร้านออนไลน์ที่พยายามหาช่องทางในการโปรโมทสินค้าของตนเองให้เป็นที่รู้จักบนโลกโซเชียลให้ได้มากที่สุด เราจึงพบว่า ดารานักแสดง นางแบบ หรือคนในวงการบันเทิงจำนวนไม่น้อยที่เริ่มหันเหมาสู่ธุรกิจนี้ เพราะพวกเขาเหล่านี้มีสังคมเครือข่ายของผู้ที่รักชอบและสนใจความสวยงามอยู่แล้ว การขายจึงทำได้ง่ายขึ้น โดยอาจอาศัยพลังของปากต่อปากให้กระจายออกไปได้

ในเมื่อการแข่งขันค่อนข้างสูง ร้านค้าออนไลน์ใหม่ๆเกิดขึ้นแทบทุกวัน เช่นนั้นแล้ว เราควรเลือกสินค้าอะไรมาขายกันดี สุดท้ายแล้ว นี่จึงเป็นการปรับตัวระหว่างทั้งรายย่อยและรายใหญ่ สุดท้ายอยู่ที่ว่า ใครสามารถทำได้ดีกว่ากัน

admin Author